รู้จักกับ 14 สไตล์การแต่งบ้าน
ปัญหานึงที่พบเจอโดยทั่วไปของคนที่อยากแต่งบ้าน
ปัญหานึงที่พบเจอโดยทั่วไปของคนที่อยากแต่งบ้าน กับคนที่จะออกแบบแต่งบ้านให้ก็คือ การสื่อสารรูปแบบสไตล์ หรือใช้คำเรียกนั้นไม่ค่อยจะตรงกัน คนแต่งบอกชอบแบบโมเดิร์น แต่พอคุยๆ ไป ดีไซเนอร์ก็พบว่าจริงๆ เขาอยากได้แบบมินิมอลนี่หนา (แน่นอนว่าคำว่าโมเดิร์นมันกว้างมาก)
ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ที่จะต้องมาปรับจูนความเข้าใจกันอีกครั้ง เพื่อให้เราได้บ้านที่ถูกใจ โดยหากเรามีพื้นฐานการเรียกสไตล์ให้ถูกอยู่นั้น ก็จะช่วยให้ทั้งเราและดีไซเนอร์สามารถทำงานด้วยกันได้ง่ายขึ้นมาก ออกแบบบ้าน
การที่จะตกแต่งบ้านให้ออกมาตรงตามสไตล์ที่ต้องการ ขั้นตอนแรกๆก็คือการคุยกับช่างให้ทำตรงตามแบบ บทความนี้เรารวบรวมสไตล์การตกแต่งบ้าน เพื่อให้เจ้าของบ้านได้ดูเป็นตัวอย่าง แถมยังคุยกับช่างได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย
1. สไตล์โบฮีเมียน
สไตล์โบฮีเมียน (Bohemian Style) หรือ โบโฮ-ชิค (Boho-Chic) ไม่ได้มีข้อจำกัดแน่นอนว่าจะต้องสีนั้นสีนี้ หรือเน้นหนักไปที่การใช้วัสดุชนิดใดชนิดหนึ่ง เรียกได้ว่าค่อนข้างฟรีสไตล์ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล เลยทำให้เป็นสไตล์ตกแต่งบ้านที่มีความเป็นเอกลักษณ์และสะท้อนตัวตนออกมาอย่างชัดเจน แต่มีจุดที่สังเกตได้ชัด ๆ เลยก็คือ การตกแต่งบ้านสไตล์โบฮีเมียนมักจะสีสันจัดจ้าน เล่นกับเส้นสายลวดลาย ภายใต้แสงไฟซอฟต์ ๆ บรรยากาศสบาย ๆ ออกแนวชวนฝัน และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือของตกแต่งจากธรรมชาติ เช่น ขนนก หิน กิ่งไม้ หรือการปลูกต้นไม้กระถางเล็ก ๆ ไว้ในบ้าน นอกจากนี้ก็ยังมีของแฮนด์เมด โมบาย งานโครเชต์ และดรีมแคตเชอร์ (Dream Catcher) ที่มักจะได้เห็นกันบ่อย ๆ จากการตกแต่งบ้านสไตล์นี้ด้วย
2. สไตล์โคสตัล
สไตล์โคสตัล (Coastal Style) หากใครชอบอารมณ์ฟีลกู้ดของบรรยากาศบนชายหาดละก็ เราขอแนะนำการตกแต่งบ้านสไตล์นี้เลย ซึ่งการตกแต่งบ้านในสไตล์นี้จะเน้นไปที่การใช้สีโทนเย็น เช่น สีฟ้า, ขาว, น้ำเงิน, เขียว และเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติเป็นหลัก อาทิ โต๊ะไม้ เก้าอี้หวาย รวมถึงของตกแต่งชิ้นเล็ก ๆ น่ารัก ๆ อย่างเปลือกหอย โมเดลประภาคาร หรือภาพวาดของท้องทะเล
3. สไตล์คอนเทมโพรารี
สไตล์คอนเทมโพรารี (Contemporary Style) เป็นการตกแต่งบ้านแบบร่วมสมัย โดยการผสมผสานระหว่างรูปแบบบ้านในอดีตกับปัจจุบันเข้าด้วยกัน โทนสีที่นิยมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นโทนสีกลาง เช่น สีครีม, ขาว, น้ำตาล, เทา เปลี่ยนลุคบ้านให้ดูเรียบหรู แต่ก็ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง นอกจากนี้ยังมีการจัดวางเลย์เอาต์ที่ชัดเจน ไม่สะเปะสะปะ เน้นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่และของที่ใช้งานได้จริงมากกว่าของตกแต่งเพื่อความสวยงาม
4. สไตล์คอตเทจ
สไตล์คอตเทจ (Cottage Style) การตกแต่งบ้านที่มีทั้งกลิ่นอายของแนวคันทรี ออกวินเทจนิด ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับย้อนยุคซะทีเดียว เพราะแฝงความทันสมัยอยู่หน่อย ๆ ซึ่งสีที่ถูกนำมาใช้ส่วนใหญ่จัดอยู่ในกลุ่มสีเอิร์ธโทน ซึ่งเข้ากันได้ดีกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็งและของเก่าที่เป็นกิมมิกของการตกแต่งบ้านสไตล์นี้ บางครั้งก็มีการนำลายดอก และโทนสีพาสเทลเข้ามาเป็นส่วนประกอบ เพื่อทอนความแข็งกระด้าง เพิ่มความละมุน สวยหวาน แต่ก็ไม่เลี่ยนจนเกินไป
5. สไตล์วินเทจ
สไตล์วินเทจ (Vintage Style) สไตล์การตกแต่งบ้านแบบย้อนยุคและมีการดีไซน์พิถีพิถันในทุกรายละเอียด มักใช้ลวดลายที่ดูพลิ้วไหว อ่อนช้อย อย่างเช่น ลายดอกไม้ สำหรับสีที่นำมาใช้กับสไตล์วินเทจมักจะเป็นสีอ่อน ๆ อย่างสีขาว, ครีม, แดงอ่อน, เหลืองอ่อน และม่วงอ่อน อีกทั้งรูปทรงของเฟอร์นิเจอร์จะดูคล้ายกับเฟอร์นิเจอร์หลุยส์ แต่มีการลดทอนรายละเอียดลงมา
6. สไตล์อีเคล็กทริก
สไตล์อีเคล็กทริก (Eclectic Style) อีกหนึ่งสไตล์การแต่งบ้านที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ อยู่นอกกรอบขอบเขตของกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เพราะเกิดจากการนำสิ่งของที่มีสีสัน ลวดลาย ขนาด และรูปแบบที่แตกต่างกันมาจัดวางเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
7. สไตล์ลอฟท์
สไตล์ Loft (ลอฟท์) จะเป็นสไตล์นึงที่ถูกเรียกบ่อยๆ ในปัจจุบันค่อนข้างมาก มักมาในรูปแบบผนังปูนดิบๆ มีรอยเขรอะๆ ดูเป็นบ้านแบบไม่ได้ตกแต่งวิจิตรอะไรมากซึ่งจริงๆ แล้วบ้านสไตล์ Loft ก็คือบ้านที่มีรูปแบบที่มีการตกแต่งที่มีไอเดียของการโชว์เนื้อแท้ของวัสดุกันไปเลย
ผนังอิฐเป็นอิฐ ผนังปูนเป็นปูน เหล็กเป็นเหล็ก การเดินสายไฟแบบโชว์ไปเลย การที่สไตล์ Loft เป็นรูปแบบที่ถูกมีขึ้น ก็เป็นผลมาจากยุคนึงในตะวันตกมีการเอาโกดังและโรงงานเก่ามาปรับปรุงเป็นบ้านนั่นเอง จึงกลายเป็นเทรนด์ที่นิยมและทำตามกันมาถึงปัจจุบัน
8. สไตล์โมเดิร์น
สไตล์โมเดิร์น (Modern Style) การตกแต่งบ้านสำหรับคนที่ชอบความเรียบง่าย ไม่หรูหราอลังการ แต่ดูดีด้วยโทนสีและรูปทรงธรรมดา ซึ่งโทนสีที่นำมาใช้บ่อยครั้งในสไตล์โมเดิร์น ได้แก่ สีขาว, ดำ และเทา บางครั้งก็ใช้แม่สีมาเติมความสดใส และของตกแต่งรูปทรงเลขาคณิต เพื่อให้สอดคล้องกับพื้นที่และการใช้งาน
9. สไตล์มินิมอล
สไตล์มินิมอล (Minimal Style) หลักการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลก็คือ การตัดส่วนที่ไม่จำเป็น และเหลือไว้เฉพาะสิ่งสำคัญ ดูน้อยแต่มีความน่าสนใจซ่อนอยู่ ตามคอนเซ็ปต์ “Less is More” หรือน้อยแต่มาก โดยการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น สิ่งของถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ สะอาดตา และเน้นใช้สีอิงกับธรรมชาติแบบสีเอิร์ธโทนหรือสีอ่อน ๆ เช่น สีขาว, น้ำตาล, เขียว และฟ้า
10. สไตล์สแกนดิเนเวีย
สไตล์สแกนดิเนเวีย (Scandinavian Style) สไตล์การตกแต่งบ้านที่ได้แรงบันดาลใจมาจากประเทศในกลุ่มนอร์ดิก (ยุโรปตอนเหนือ) ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานเท่านั้น แต่ยังมีดีไซน์ที่สวยงามให้ความรู้สึกเหมือนงานศิลปะที่มีความเรียบง่าย และไม่ซับซ้อน นิยมใช้งานไม้และตกแต่งด้วยโทนสีกลางหรือสีอ่อน ๆ เช่น สีครีม, เทา, น้ำเงิน หรือฟ้าอ่อน บรรยากาศภายในเน้นความโปร่งสบาย สว่าง และอบอุ่นด้วยแสงจากธรรมชาติ
11. สไตล์รัสติก
สไตล์รัสติก (Rustic Style) สไตล์การตกแต่งบ้านที่อาจดูคล้าย ๆ กับสไตล์ลอฟท์ แต่มีความแตกต่างตรงที่สไตล์รัสติกมีกลิ่นอายของวินเทจนิด ๆ และคันทรีหน่อย ๆ เน้นเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่และของที่ทำจากงานไม้ แม้จะเปลือยผิววัสดุ แต่ก็มีการตกแต่งให้ดูสวยงาม นอกจากนี้ยังนิยมใช้ของเก่ามารียูสใหม่หรือของ DIY ที่ทำขึ้นเอง
12. สไตล์ทรอปิคอล
สไตล์ Tropical (ทรอปิตอล) ก็คือการตกแต่งบ้านในประเทศที่มีภูมิอากาศร้อนชื้น มีการเลือกวัสดุในพื้นถิ่นร้อนชื้นมาประยุกต์ตกแต่ง ไม่ว่าจะวัสดุไม้ไผ่สาน พื้นไม้แดง เก้าอี้หวาย โดยยิ่งเฉพาะเมืองไทยนั้นที่เป็นประเทศแบบ Tropical ทำให้สไตล์การตกแต่งแบบนี้มีเสน่ห์ และเป็นที่นิยมนำมาตกแต่งตามพวกรีสอร์ท และโรมแรมหลายดาวต่างๆ ทำให้บ้านสไตล์ Tropical นี้นอกจากจะดูอบอุ่นแต่ตอบโจทย์ความเป็นไทยในรูปแบบนึงอีกด้วย
13. สไตล์โอเรียนทอล
สไตล์โอเรียนทอล (Oriental Style) การตกแต่งบ้านที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมและศิลปะจากฝั่งตะวันออก การดีไซน์และออกแบบของต่าง ๆ มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสภาพความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่นและอากาศ โทนสีที่ใช้ส่วนมากนิยมใช้สีทอง, น้ำตาล, ดำ, แดง และใช้วัสดุจากธรรมชาติ หาได้ง่ายจากท้องถิ่น เน้นความสบายมากกว่าความหรูหรา สะท้อนตัวตนของผู้คนในเอเชียได้เป็นอย่างดี
14. สไตล์อิงลิชคอทเทจ
สไตล์แบบ English Cottage (อิงลิชคอทเทจ) ก็คือสไตล์บ้านแบบอังกฤษที่เรามักได้ยินกัน พบเจอได้ตามบ้านตากอากาศแถบเขาใหญ่ ซึ่ง English Cottage เกิดจากแนวทางตกแต่งแนวพระราชวังอังกฤษที่ปรับมาเป็นบ้านอยู่อาศัย เป็นบ้านผู้ดีอังกฤษในอดีต
โดยมีรูปแบบการตกแต่งที่เน้นความวิจิตรผสมผสานกับความอบอุ่นของบ้าน เช่น การนำเก้าอี้บุผ้าลายดอกไม้วางคู่กับพรมลายสวยงามโบราณมีเตาพิงประดับ ประกอบกับผนังวอลเปเปอร์ลายเถาวัลย์ที่มีกรอบรูปกรอบหลุยส์ติดอยู่บนนั้นนั่นเอง
อ่านบทความน่าสนใจถัดไป Bricks and Light บ้านตรงใจคนชอบอิฐและแสง